ผู้เชี่ยวชาญคนที่2


ผู้เชี่ยวชาญคนที่ 2



          และผู้เชี่ยวชาญคนที่ 2 คือ พี่ต้น(วนัฐพล โพธิ์ทอง) ซึ่งได้เรียนจบทางด้านการประมงโดยตรง
ซึ่งพี่ต้นได้เลี้ยงปลา และกุ้งหลายประเภท โดยเฉพาะกุ้งที่มีการเพาะเลี้ยงเอง
และมีการส่งออกกุ้งอีกด้วย 


              พี่ต้นได้เล่าว่าเขาเลี้ยงกุ้งอยู่ 2 ชนิด คือกุ้งขาวกับกุ้งก้ามกราม ซึ่งกุ้งขาวจะเลี้ยงน้ำเค็ม
ส่วนกุ้งก้ามกรามจะเลี้ยงน้ำจืด การนิยมทานกุ้งของคนไทยพี่ต้นบอกว่าเขานิยมทานทั้งกุ้งขาว
และกุ้งก้ามกราม ขึ้นอยู่กับการนำไปประกอบอาหาร 

 

        กุ้งก้ามกรามส่วนใหญ่ก็จะนำไปทำต้มยำกุ้งหรือพวกปิ้ง ย่าง ส่วนกุ้งขาวก็จะนำไปทำผัดผัก
หรือกุ้งแช่น้ำปลา ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน และพี่ต้นยังบอกอีกว่ากุ้งก้ามกรามกับกุ้งแม่น้ำ
เป็นพันธุ์หรือชนิดเดียวกัน แค่มีความแตกต่างคือกุ้งแม่น้ำจะมีสีเข้ม และก้ามที่ใหญ่ ถ้าเป็นกุ้งก้ามกราม
ที่เลี้ยงในบ่อดิน สีจะออกอมเหลือง เขียวนิดๆ สีจะสว่างกว่า และเปลืองก็จะบางกว่า

  
กุ้งแม่น้ำ

กุ้งก้ามกราม

                             การเลี้ยงกุ้งพี่ต้นบอกว่าไม่ยากเลยขึ้นอยู่กับแระสบการณ์ของผู้เลี้ยงกุ้ง
กุ้งก้ามกรามจะมีอายุการเลี้ยง 8-10 เดือน บ่อแรกกุ้งก้ามกรามจะปล่อยประมาณ 5-7 หมื่นตัวต่อไร่
และเราก็จะทำการเลี้ยงประมาณ 3 เดือน เราจะเลี้ยงในบ่อชำก่อน 3 เดือน บ่อชำก็คือการเลี้ยง
ลูกกุ้งตัวน้อยที่เพิ่งเกิดมา เอามาเลี้ยงอนุบาลในบ่อชำพอได้ประมาณ 3 เดือน ลูกกุ้งจะมีน้ำหนักตัว
ประมาณ 50 กรัม ประมาณ 200 ตัว เราก็จะคัดมาเลี้ยงในบ่อเลี้ยงอีกที 


ความหนาแน่นจะอยู่ประมาณไร่ละ 2-3 พันตัว เลี้ยงประมาณสัก 50 วัน เราก็จะคัดกุ้งที่เป็นตัวเมียและกุ้ง
ที่เป็นจิ๊กโก๋หรือกุ้งที่มีลักษณะแคระแกรน ไม่โตแล้ว มีก้ามสีเขียวโต เราก็จะคัดขายก่อน และเราก็เลี้ยง
ต่อไปอีก 30-45 วัน และเราก็จะคัดกุ้งตัวที่ใหญ่มาขายอีกที ทุกๆ 30-45 คน เราก็จะคัดขึ้นมาขายอีกที กุ้ง
ในหนึ่งรอบเราจะคัดได้ 4-5 รอบ ก็จะหมด และส่วนอาหารของกุ้งก้ามกรามจะเป็นอาหารจมที่เราซื้อตาม
ร้านสำเร็จรูปทั่วไป เราจะให้ 3% ของน้ำหนักกุ้งในบ่อต่อวัน อย่างกุ้งในบ่อ 100 กิโลกรัม เราก็ให้อาหาร
กุ้งประมาณ 3 กิโลกรัม วันหนึ่งเราก็ให้ 2 มื้อ เช้ากับเย็น ถ้ากุ้งในระยะประมาณ 1-2 เดือน เราจะให้เยอะ
หน่อยประมาณ 5-10% เพราะกุ้งตัวน้อยเขาจะกินเก่ง แต่พอโตมาเกิน 3 เดือนแล้วเราก็จะให้ประมาณ
2-3% แต่ก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ว่ากุ้งมันกุ้งเก่งมากขนาดไหน วิธีการจับกุ้งเราก็จะใช้อวลลากจากท้ายบ่อ
ขึ้นมายังหัวบ่อและจับคัดขาย และถ้าขนาดของกุ้งไม่ได้เราก็จะปล่อยลงบ่อเพื่อเลี้ยงต่อ


                       ยังไม่จบเพียงเท่านี้นะค่ะ พี่ต้นยังพาไปดูบ่อเพาะกุ้งหรือบ่ออนุบาลกุ้งอีกด้วยค่ะ
พี่ต้นเพาะเลี้ยงกุ้ง 6 บ่อๆละประมาณ 2-3 แสนตัว 


                                  พี่ต้นได้ตักกุ้งมาให้ดิฉันดูซึ่งในแก้วหนึ่งมีเป็นสิบๆตัวเลยนะค่ะ
พี่ต้นยังบอกอีกว่าจะมีกุ้งที่เป็นระยะแพลงตอนหรือตัวโม่งกับระยะที่เป็นกุ้งคว่ำ
กุ้งแพลงตอนจะไม่สามารถว่ายน้ำได้มันจะหงายท้องลอยไปตามน้ำ ส่วนกุ้งคว่ำจะมีลักษณะทั่วไป
ที่เราเห็นเพียงแต่ว่ามันแค่ตัวเล็ก มันจะว่ายคว่ำหัวลงปกติ 


                              และส่วนอาหารกุ้งในระยะแรกเราจะให้เป็นอาทีเมียหรือไรทะเล
ลักษณะจะเป็นไข่เล็กๆมันจะมีสีส้ม  


                      และพี่ต้นยังให้ไข่ตุ๋นเป็นอาหารเสริมของกุ้งอีกด้วย ซึ่งไข่ตุ๋นก็ทำมาจากนมผงเด็ก
ปั่นรวมกับไข่ตุ๋น เพราะว่าในนมเด็กจะมีสารอาหารกับพวกวัยอ่อนอยู่ด้วย ระยะแรกจะให้ไรทะเล
พอเราอนุบาลมาได้ประมาณ 10 วัน เราก็จะให้ไข่ตุ๋นผสมกับไรทะเลด้วย ไรทะเลนี่ขาดไม่ได้เลย
ต้องให้ทุกวัน ดิฉันได้เข้าไปในบ่อเพาะเลี้ยงกุ้งไม่ถึง 5 นาที ก็ต้องออกมาพักข้างนอกเพราะในห้อง
เพาะกุ้งร้อนมากๆจึงถามพี่ต้นว่าให้อุณหภูมิกุ้งอย่างไร 


         พี่ต้นบอกว่าต้องให้ในอุณหภูมิที่สูงประมาณ 28-30 องศาเซลเซียส แต่ไม่ใช่อุณหภูมิห้องนะค่ะ
เป็นอุณหภูมิของน้ำในบ่อเพาะกุ้งค่ะ เพราะถ้าอุณหภูมิในน้ำมันเย็นเกินไปลูกกุ้งก็จะมีเจริญเติบโตที่ช้า
หรือไม่คว่ำนั่นเองค่ะ การเพาะกุ้งก็จะอยู่ประมาณ 28 วัน และหลังจากนั้นก็ทำการย้ายไปในบ่อต่อไปค่ะ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น